VxpDisk 5.0_pach

อะเก็บไว้นานละเอาไว้สะสม
Download VDO

โน๊ตบุครุ่นใหม่ไบออสเป็นUEFI ฮาร์ดดิสก์เป็นGPTคืออะไร แก้ไขยังไง!?!

คัดลอกมาจาก: http://www.easyosteam.com/forum.php?mod=viewthread&tid=2196&extra=&page=1

ผู้เขียนบทความ ท่าน  easyosteam  แห่ง http://www.easyosteam.com/



เฟิร์มแวร์แบบUEFI (Unified Extensible Firmware Interface) คือส่วนติดต่อเฟิร์มแวร์มาตรฐานสำหรับพีซี

ที่ออกแบบมาเพื่อใช้แทน BIOS (Basic Input/Output Aystem)แบบเดิม เหตุการณ์นี้ก็คล้ายๆกับยุคที่เปลี่ยนจากIDEเป็นAHCIคงทำให้ปวดหัวกันมาถ้วนหน้า เมื่อต้องการลงXP

  ในส่วนของข้อดีหลักๆของระบบนี้คือ

- รองรับHDDแบบGPTที่ทำให้มองเห็นฮาร์ดดิสก์มากกว่า 2.2TB ซึ่งHDDแบบMBRมองเห็นสูงสุดแค่2.2TB

- บางรุ่นออกแบบมาเป็นกราฟฟิคที่สวยงาม สามารถใช้เมาสืตั้งค่าต่างๆในไบออสได้เลย

- ป้องกันไวรัสประเภทที่ฝังตัวในMBR

- ช่วยให้MSป้องกันปัญหาลิขสิทธิ์ได้ดีขึ้น เพราะฝังคีย์มาในไบออสเลย 

           เดี๋ยวนี้หลายท่านคงจะเริ่มเจอแล้วละสำหรับไบออสแบใหม่ที่จะมาทำให้เราปวดหัวกัน มาดูว่าจะรับมือยังไง

เครื่องที่ท่านได้มาอาจจะเป็นแบบที่ติดวินโวส์8แท้มา หรืออาจจะเป็นลีนุกซ์มาก็ได้ ให้เราเช็ตตามสเต๊ปดังนี้ครับ

เช็คไบออส 
การเช็คไบออสจะทำให้เรารู้ว่าเราจะจัดการกับคอมเครื่องนี้ได้ยังไง ปัจจุบันNotebookใหม่ในตลาดประมาณ90%
ยังเป็นแบบไฮบริดอยู่ หมายถึงว่ายังสามารถลงแบบโกสได้อยู่ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีเมนูไม่เหมือนกัน แต่ก็สามารถจับจุดสำคัญๆได้ตามนี้ครับ


- มองหาคำว่าLaunch CSM แล้วตั้งเป็นEnable 


- บางรุ่นอาจจะมีคำว่าLaunch CSMอยู่แต่เป็นจางๆไม่สามารถเปลี่ยนค่าได้ ให้ท่านมองหาSecure Boot Control  ท่านต้องDisableมันก่อน แล้วค่อยไปเปิดLaunch CSM


- บางรุ่นจะไม่มีLaunch CSM ให้ท่านมองหาที่BootModeให้ท่านเปลี่ยนเป็นLegacyเท่านี้ท่านก็จะโกสได้อย่างสบายใจแล้วละครับ
(ข้ามไปอ่านคอมเม้นที่2 การจัดเตรียมHDDได้เลย)




แต่...10%ที่เหลือละ หึหึ งานมาแล้วครับ


   เครื่องที่ใช้ไบออสแบบUEFIจะไม่สามารถโกสได้เลยนะครับ ถึงแม้จะหัวหมอถอดเอาไปโกสกับเครื่องอื่นก็ตามเพราะระบบถูกตั้งให้มองหาHDDที่เป็นระบบGPTเท่านั้น ลืมมันไปได้เลยGhost32เพราะมันใช้ระบบMBR แบบHDDรุ่นเก่า
โกสแล้วเอามาใส่ยังไงก็ไม่บูต  


  หากท่านเจอไบออสแบบนี้ให้ท่านเผื่อเวลาลูกค้าไว้เลยครับ ต้องลงสดจากแผ่น+เซตอัพโปรแกรมต่างๆเองทั้งหมดเท่านั้น
หรือจะอุดหนุน KKDWindows8.1_V.9_x64ก็ได้นะคร้าบ ลงได้แน่นอน ฮิฮิ


  แผ่นเซตอัพต้องเป็นWindows7-8-8.1แบบ64บิตเท่านั้น ซึ่งตัวนี้แนะนำให้แบ่งไดร์ฟจากแผ่นในขั้นตอนเซตอัพเลยครับ
ไม่ต้องเข้าWin8PEให้ยุ่งยาก(ต้องเป็น7PE-8PE_X64เท่านั้นถึงจะบูตได้)

แล้วถ้าเครื่องไม่มีที่อ่านDVDละทำไง...ไม่ยากครับหาUSBซัก4GBมา1ตัวแล้วก็ทำดังนี้ครับ

1.โหลดโปรแกรมRufusสำหรับสร้างUSB Bootมาจาก ::ที่นี่::
2.เสียบUSBของคุณ แล้วเปิดโปรแกรมRufusขึ้นมา
3.ตั้งค่าต่างๆตามรูปครับ

(1) เลือกไดร์ฟที่เป็นUSBของคุณ
(2) Browseไปเลือกไฟล์ISOWindows7-8-8.1 64BIT
(3) ดูให้แน่ใจว่าถูกเลือกเป็นGPT Partition scheme for UEFI Computer
(4) รูปแบบไฟล์ต้องเป็นFAT32เท่านั้น 
(5) ตั้งชื่อให้แฟลชไดร์ฟ ถ้าไม่ตั้งก็ใช้ชื่อตามในไฟล์ISO 
(6) คลิกที่Start เพื่อเริ่มสร้างUSBสำหรับติดตั้งWindows
(7) โปรแกรมก็จะถามเพื่อความแน่ใจ และแจ้งว่าไฟล์ทั้งหมดในUSBจะถูกลบ ก็กดOKได้เลย 
(8) รอจนกว่าจะขึ้นคำว่าDONE ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการสร้างUSB Bootแล้วครับ

ขั้นตอนการลงWindowsแบบUEFIจากUSB
ให้ท่านเข้าไปตั้งในไบออส โดยตั้งให้บูตจากUSBเป็นลำดับแรก

ท่านต้องเลือกเป็นEFI USB Deviceตามรูป (กรณีที่เปิดLegacyจะมีชื่อUSBแต่ไม่มีEFIนำหน้า ต้องเลือกที่มีEFIนำหน้าถึงจะลงได้)

**ทริปการสังเกตุง่ายๆว่าวินโดวส์ที่ลงมาเป็นแบบUEFIหรือธรรมดา**
โดยปกติหากเป็นวินโดวส์8ที่เราลงทั่วไป ในขั้นตอนการบูตจะเป็นโลโก้Windowsสีฟ้า
แต่หากท่านเจอเป็นโลโก้ของยี่ห้อNotebookพร้อมกับตัวหมุนๆแบบนี้ สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นไบออสแบบUEFI

การจัดเตรียมHDDสำหรับโกส

  อันนี้เป็นสเต๊ปที่2ต่อจากการเช็คไบออส ซึ่งท่านต้องดูก่อนว่าไบออสรองรับการโกส บางคนอาจจะลัดขั้นตอนถอดHDDมาโกสเลย แล้วก็จะเจอปัญหาเวลาเอาบูตแล้วมันไม่ขึ้น ก็เพราะท่านไม่ได้ตั้งไบออสนั่นเอง


  หากท่านตั้งค่าไบออสแล้วท่านจะสามารถบูตจากUSBได้ แนะนำให้ใช้KKDMultitoolV7บูตเข้าKKDWin8PE_V1
แต่หากเป็นไบออสแบบUEFIท่านต้องใช้KKDMultitoolV8 ซึ่งเป็นWin8PE 64บิต ถึงจะมองเห็นในไบออสและบูตได้

PartitionWizard โปรแกรมแบ่งไดร์ฟที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน
หากท่านเป็นคนที่ติดตามผลงานKKDMultitoolมาโดยตลอด ท่านจะเห็นว่าผมได้ใส่โปรแกรมนี้มาในทุกเวอร์ชั่น
หลักการทำงานของโปรแกรมนี้คือ ท่านสามารถสั่งลบ-ฟอแมต หรือย้อนกลับได้หากทำผิดขั้นตอน ซึ่งจะไม่เกิดผลจริงๆกับHDDจนกว่า
ท่านจะกดApply เพื่อให้โปรแกรมทำงานตามที่เราได้สั่งไปก่อนหน้านี้ 

  ในบทความนี้ผมจะใช้โปรแกรมนี้ทำการคอนเวิร์ทไดร์ฟจากGPTเพื่อเป็นMBR ซึ่งขั้นตอนก็ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากมาย
แต่ก็จะมีบางส่วนที่ต้องระวัง ยังไงก็อ่านให้เข้าใจก่อนนะครับ 

วิธีสังเกตุว่าเป็นไดร์ฟแบบGPTรึเปล่า ให้ท่านดูตามรูปเลยครับ ตรงType จะมีบอกว่าเป็นพาทิชั่นแบบGPT

สำหรับท่านที่ต้องการโกสให้ทำดังนี้ครับ

- คลิกขวาที่HDDที่ต้องการแปลงเป็นMBR แล้วเลือกDelete al  Partition
(ตรงนี้จะเป็นการลบไดร์ฟที่มีทิ้งทั้งหมด หากลูกค้ามีข้อมูลในไดร์ฟอื่นอยู่ ท่านต้องแบคอัพเก็บไว้ที่อื่นก่อน)

  
- จากนั้นโปรแกรมก็จะถามเพื่อยืนยัน ก็กดYESได้เลย

- คลิกขวาที่HDDลูกเดิม แล้วเลือกInitializa to MBR Disk

- กดที่ปุ่ม Apply เพื่อสั่งให้โปรแกรมทำงานตามที่เราได้สั่งไว้ก่อนหน้านี้
- โปรแกรมก็จะถามยืนยันอีกครั้ง ก็กดYesเพื่อให้โปรแกรมเริ่มทำงานได้เลย

เพียงเท่านี้ท่านก็จะสามารถนำHDDไปโกส และใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหาแล้วละครับ 
แต่ยังไงก็อย่าลืมเช็คไบออสก่อนนะคร้าบบบบ 


คัดลอกมาจาก: http://www.easyosteam.com/forum.php?mod=viewthread&tid=2196&extra=&page=1

ผู้เขียนบทความ ท่าน  easyosteam  แห่ง http://www.easyosteam.com/

การทำ MySQL Replication

สภาพแวดล้อมในการติดตั้ง

เครื่อง Master Server

ชื่อ mysql-a1.rujirapong.com

IP 192.168.15.18

เครื่อง Slave Server

ชื่อ mysql-a2.rujirapong.com

IP 192.168.15.32

เชื่อมต่อดังภาพ

เตรียมระบบทั้ง 2 เครื่อง

ติดตั้ง CentOS 5.5 ทั้ง 2 เครื่อง
ทำการอับเกรด MySQL เป็น version 5.1 ดังนี้
ตรวจสอบว่า หลังการติดตั้ง CentOS 5.5 มี MySQL ติดตั้งอยู่เดิม 

rpm -qa | grep -i ‘^mysql-‘

หากพบ version เก่าให้ลบออกโดย

rpm –nodeps -ev <package name>

ดาวน์โหลดและติดตั้ง MySQL 5.1 จากเว็บไซต์ www.mysql.com
โดยดาวน์โหลดและติดตั้ง 3 Package นี้

MySQL-shared-compat-5.1.58-1.rhel5
MySQL-server-community-5.1.58-1.rhel5
MySQL-client-community-5.1.58-1.rhel5

สำหรับเครื่องที่มีข้อมูล Database อยู่เดิมแล้ว จะต้อง dump database import ข้อมูลให้ตรงกันทั้ง 2 เครื่องก่อน

 เริ่มต้น

เครื่อง Master Server mysql-a1.rujirapong.com

1. แก้ไข Configure 

/etc/init.d/mysql stop

vi /etc/my.cnf

เขียนเข้าไป

[mysqld]

log-bin=mysql-bin
server-id=1
innodb_flush_log_at_trx_commit=1
sync_binlog=1 

/etc/init.d/mysql start 

2. ทำการ Add User Replication

mysql -uroot -p

mysql> CREATE USER ‘repl’@’192.168.15.32′ IDENTIFIED BY ‘slavepass';

mysql> GRANT REPLICATION SLAVE ON *.* TO ‘repl’@’192.168.15.32′;

ความหมายคือ add user ชื่อ repl และอนุญาติ Access จากกมายเลข IP 192.168.15.32

3. หาจุด Checkpoint เพื่อ Replication และดู Master Status

mysql> FLUSH TABLES WITH READ LOCK;

mysql > SHOW MASTER STATUS;

สมมุติโชว์

+——————+———-+————–+——————+

| File             | Position | Binlog_Do_DB | Binlog_Ignore_DB |

+——————+———-+————–+——————+

| mysql-bin.000001 |      356 |              |                  |

+——————+———-+————–+——————+

1 row in set (0.00 sec)

mysql> UNLOCK TABLES;

เก็บข้อมูลตัวอักษรสีแดงไว้ เพื่อนำไปใส่ใน Configure ของ Slave Server

เครื่อง Slave Server ชื่อ mysql-a2.rujirapong.com

1. แก้ MySQL Configure

/etc/init.d/mysql stop

vi /etc/my.cnf

แก้ไขดังนี้

[mysqld]

server-id=2

/etc/init.d/mysql start

2. Change Master

mysql -uroot -p

ใส่ค่าดังนี้

mysql> CHANGE MASTER TO

  MASTER_HOST=’192.168.15.18′,

  MASTER_USER=’repl’,

  MASTER_PASSWORD=’slavepass’,

  MASTER_PORT=3306,

  MASTER_LOG_FILE=’mysql-bin.000001‘,  # ค่าที่ได้จาก Master Server

  MASTER_LOG_POS=356,  # ค่าที่ได้จาก Master Server

  MASTER_CONNECT_RETRY=10; 

3. เริ่ม Replicate

mysql> START SLAVE;

mysql> SHOW SLAVE STATUS \G

สรุป

หากทุกอย่างถูกต้อง ที่เครื่อง Master มีการสร้าง database หรือมีการอับเดทข้อมูลอะไรก็ตาม ข้อมูลจะถูก Replicate มาที่ Slave Server อัตโนมัติ แต่ข้อจำกัดคือ การ Replication ของ MySQL จะเป็นแบบ 1-Way คือจาก Master ไป Slave แต่ข้อมูลหากมีการเปลี่ยนแปลงที่ Slave จะไม่ Replicate กลับมาที่ Master ดังนั้น ระบบนี้จึงเหมาะสำหรับการสำรองข้อมูลเท่านั้น แต่หากระบบหลักมีปัญหาก็อาจจะใช้วิธีสลับ IP หรือกำหนดให้ Application Server ชี้ Database มาที่เครื่อง Slave Server ขึ้นอยู่กับความยืดหยุ่นของแต่ละองค์กร

ที่มา:http://www.wandee.org/wordpress/?p=158

ขยายพื้นที่ disk ของ vm บน virtualbox

ในการใช้งาน vm ถ้าเราสร้าง disk น้อยไป เวลาใช้งานดิสก์ก็อาจจะเต็มได้ เราสามารถขยายดิสก์ของ vm ได้ดังนี้

ในการขยายดิสก์ เราจะสั่งที่เครื่อง Host หรือก็คือ OS หลักที่เรารันอยู่นั่นเอง โดยรันคำสั่ง Vboxmanage modifyhd <hdd path> --resize <size in MB>
ถ้าเป็นวินโดว์อาจจะต้องเรียกคำสั่งแบบ full path ถ้ายังไม่ได้ทำการเพิ่มตัวแปร environment variable 

ตัวอย่างการเพิ่มขนาด
# vboxmanage modifyhd /media/data/vm/xp.vdi --resize 20480
0%...10%...20%...30%...40%...50%...60%...70%...80%...90%...100%

เมื่อเข้าไปดู vm จะสังเกตว่าขนาดของ hdd ได้เพิ่มขึ้นตามที่เรา resize ไปแล้ว 
หลังจากนี้ก็ให้เราหาเครื่องมือ หรือทูลเพื่อเข้าไปจัดการ Partition ที่อยู่ข้างใน vm disk ให้ใช้งานพื้นที่ที่เพิ่มเข้ามาได้

ที่มา:http://www.clusterkit.co.th/techblog/content_view.php?blog_id=00052

Grub Installation for CentOS 5 and 6

http://wiki.centos.org/HowTos/GrubInstallation

How I installed virtualbox 4.3 on CentOS 6.5 x86_64

Step 1: Install the EPEL repository
$ rpm -Uvh http://download.fedoraproject.org/pub/epel/6/x86_64/epel-release-6-8.noarch.rpm
$ yum repolist

Step 2: Create /etc/yum.repos.d/virtualbox.repo
[virtualbox]
name=Oracle Linux / RHEL / CentOS-$releasever / $basearch - VirtualBox
baseurl=http://download.virtualbox.org/virtualbox/rpm/el/$releasever/$basearch
enabled=1
gpgcheck=1
gpgkey=http://download.virtualbox.org/virtualbox/debian/oracle_vbox.asc

Step 3: Install the necessary system packages
yum groupinstall -y 'Development Tools'
yum install -y kernel-devel
yum install -y dkms

Step 4: Install VirtualBox
yum list | grep -i virtualbox  # list the available choices
yum install VirtualBox-4.3  # choose the most recent one
service vboxdrv setup

Step 5: Add users to the vboxusers group
usermod -a -G vboxusers <your_user_name>

Step 6: Run VirtualBox
VirtualBox

ที่มา: http://joelinoff.com/blog/?p=1444

cant launch virtual box Trying to register the VirtualBox k

DKMS: add completed.
Failed to install using DKMS, attempting to install without
Makefile:183: *** Error: unable to find the sources of your current Linux kernel. Specify KERN_DIR=<directory> and run Make again. Stop.


Stopping VirtualBox kernel modules [ OK ]
Uninstalling old VirtualBox DKMS kernel modules [ OK ]
Trying to register the VirtualBox kernel modules using DKMSError! echo
Your kernel headers for kernel 2.6.32-431.el6.x86_64 cannot be found at
/lib/modules/2.6.32-431.el6.x86_64/build or /lib/modules/2.6.32-431.el6.x86_64/source.
[FAILED]
(Failed, trying without DKMS)
Recompiling VirtualBox kernel modules [FAILED]
(Look at /var/log/vbox-install.log to find out what went wrong)

My solution to this problem was to do the following:
1) Go to the followning folder to find out the environment name:
[root@localhost ~]$ ls /usr/src/kernels
2.6.32-431.5.1.el6.x86_64

2) Open the root “.bashrc” file for editing with Nano.
[root@localhost ~]$ nano .bashrc

3) The output from the command for the 1st step was used to insert a line in the “.bashrc” file. Inside of the file I added the following line:
export KERN_DIR=/usr/src/kernels/2.6.32-431.5.1.el6.x86_64

4) After saving the file I executed the “.bashrc” lines.
[root@localhost ~]$ source .bashrc

5) Finally I ran the VirtualBox rebuilding script:
[root@localhost ~]$ /etc/init.d/vboxdrv setup

Decode IonCube Encoded php Files

 Download

Decoder_Zend

PHP Online Decrypt Tools

PHP Decode - str_rot13 / gzinflate / base64_decode
PHP Decoder - eval / gzinflate / base64_decode
PHP Decoder - eval / gzinflate / base64_decode
Decode HEX String -  ...\x32\56\x121\x45\x67\x78\60...
Decode FOPO v1.2 Script
Decode BYTERUN Script
Decode ZEURA.COM Script
Decode PHPLockit v2.2 Script
Decode CodeLock v2.7 Script
Decode HTML ENTITIES Script - ...&#1740;&#1587;&#1578;...
Decode ATOMIKU PHP Script
Decode SourceCop v3.x PHP Script
Decode PHP-CRYPT Script
Decode TrueBug v1 Script
Decode Pipsomania Script

วิธีการลบอักษร ใน excel

สร้าง Function ขึ้นโดย

กด Alt-F11
สั่ง Insert Module
แล้วพิมพ์

Function NumString(Inp) As String

  xLen = Len(Inp)
 
  If xLen > 0 Then
     xOut = ""
     For I = 1 To xLen
         xCheck = Mid(Inp, I, 1)
         Select Case xCheck
                Case "1", "2", "3", "4", "5", "6", "7", "8", "9", "0"
                     xOut = xOut + xCheck
         End Select
     Next I
  NumString = xOut
  End If
End Function


จากนั้นเวลาใช้งาน ให้เขียนเป็นสูตรตามนี้ครับ
(โดยสมมุตว่าข้อมูลที่มีตัวเลขปนตัวอักษรอยู่ที่ a1)
=NumString(a1)

ก็จะได้เฉพาะส่วนที่เป็นตัวเลข แต่ผมเขียนให้ผลออกมา
ในรูปตัวอักษรนะครับ เพราะกันไว้กรณีตัวเลขมีความยาวมาก ๆ


 ที่มา:http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=697a1fd1309898a0

PE Analysis Tools Worth

Download

 ไว้  Analysis malware ครับ ช่วงนี้เห็นแม่ง เด็ดตูดหมึกเกรียนเยาะเอาตัวนี้ไปแกะดูเบื้องต้นก่อน